หลังคาโรงรถแบบประหยัด เลือกแบบไหนดี
หลังคาโรงรถแบบประหยัดเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันรถยนต์จากสิ่งอันตรายที่เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายแก่รถยนต์ ซึ่งการเลือกหลังคาโรงรถแบบประหยัดควรดูที่หลังคาที่ใช้ในการทำหลังคาโรงรถ เนื่องจากหลังคาแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อหลังคาที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณในการสร้างหลังคาโรงรถแบบประหยัดของตน
โดยบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลังคาโรงรถกันว่ามีความสำคัญอย่างไร พร้อมข้อควรพิจารณาในการเลือกหลังคาโรงรถแบบประหยัด เพื่อความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์และปลอดภัยแก่รถยนต์ของท่าน
หลังคาโรงรถสำคัญอย่างไร?
เชื่อได้เลยว่าหลายคนมองข้ามส่วนสำคัญอย่างหลังคาโรงรถ เพราะมักจะคิดว่าหลังคาโรงรถไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้ว หลังคาโรงรถมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งต่อตัวรถเอง หรือแม้แต่ตัวบ้าน โดยประโยชน์ที่สำคัญของหลังคาโรงรถ ประกอบด้วย
รักษาสภาพรถยนต์
เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่า หากรถยนต์สัมผัสกับสภาพอากาศเป็นเวลานาน สีตัวรถ ยาง หรืออะไหล่ต่าง ๆ อาจสึกหรอได้ ซึ่งการทำหลังคาโรงรถสามารถป้องกันรถยนต์จากสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด ความร้อน น้ำฝน หรือสิ่งไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ
เพิ่มพื้นที่กิจกรรมนอกบ้าน
หลังคาโรงรถนอกจากจะสามารถจอดรถได้แล้ว ยังเป็นพื้นที่โล่งที่สามารถใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมากมาย ด้วยความโล่งและความร่มเย็น ยกตัวอย่างเช่น การตากผ้าในที่ร่ม การนั่งรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือการทำงานฝีมือ เป็นต้น
ความสวยงามแก่บ้าน
การเลือกใช้วัสดุและลักษณะของหลังคาโรงรถที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับตัวบ้าน เป็นส่วนช่วยสำคัญในการเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้านได้ ส่งผลให้บ้านดูโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ขึ้นนั่นเอง
หลังคาประเภทไหนนิยมใช้ทำหลังคาโรงรถ?
หลังคาโรงรถแบบประหยัดนั้นสามารถเลือกใช้หลังคาได้อย่างหลากหลาย ตามความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งาน ซึ่งหลังคาแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าหลังคาประเภทหรือชนิดไหนบ้างที่ได้รับความนิยมสำหรับการนำไปทำเป็นหลังคาโรงรถแบบประหยัด
หลังคาเมทัลชีท
หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Roof) มีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี และโอกาสเกิดน้ำรั่วซึมน้อย อีกทั้งยังง่ายต่อการติดตั้งด้วย ไม่ว่าจะบนพื้นระนาบหรือพื้นที่โค้ง หลังคาเมทัลชีทก็สามารถใช้ได้ เพราะความสามารถในการดัดงอได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของหลังคาเมทัลชีทคือ เสียงดังค่อนข้างดัง เมื่อเกิดการตกกระทบ หรือฝนตก ซึ่งสร้างความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยหรือใกล้เคียงได้อย่างมากโดยราคาของหลังคาเมทัลชีทอยู่ที่ราว ๆ 600 – 1,700 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ขนาด ความหนา และยี่ห้อของหลังคาเมทัลชีทนั้น ๆ
หลังคาไวนิล
หลังคาไวนิล (Vinyl Roof) ทำมาจากพลาสติกชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า PVC (Poly Vinyl Chloride) ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ทั้งแสงแดด หรือฝนตก และเป็นหลังคาที่ช่วยลดเสียงดังจากการกระทบต่อหลังคาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง แต่กลับมีน้ำหนักเบา จึงไม่แปลกเลยที่หลังคาไวนิลจะกลายมาเป็นหลังคาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงข้อเสียของหลังคาไวนิลแล้วละก็ คงหนีไม่พ้นในด้านราคาที่สูงเป็นอย่างมาก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 3,000 บาทต่อตารามเมตร ถือได้ว่าเป็นราคาที่สูงกว่าวัสดุอื่น ๆ มาก
หลังคาโพลิคาร์บอเนต
ความเด่นชัดของหลังคาโพลิคาร์บอเนต (PC : Polycarbonate) คือลักษณะโปร่งใส ที่สามารถมองผ่านไปอีกด้านได้ ซึ่งหลังคาชนิดนี้สามารถยึดเกาะตัวได้ค่อนข้างดี ทำให้ขึ้นรูปได้ง่ายตามไปด้วย รวมไปถึงความสามารถในการทนต่อสภาพอากาศต่าง ๆ นั้นค่อนข้างดี ซึ่งหากเคลือบด้วยสารดูดซับแสง Ultraviolet หรือที่เรียกจักกันคือ UV จะส่งผลให้หลังคาโพลิคาร์บอเนตสามารถป้องกันความร้อนได้เกือบ 100% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังคาโพลีคาร์บอเนตไม่ทนต่อความร้อนสูง เพราะยิ่งทำให้หลังคาเสื่อมสภาพการใช้งานได้เร็วมากขึ้น อีกทั้งราคายังสูงอีกด้วย ซึ่งอยู่ที่ 2,500 – 3,000 บาทต่อตารางเมตร
หลังคาอะคริลิกโปร่งแสง
มีลักษณะเป็นแผ่นอะคริลิกเรียบ และโปร่งแสงคล้ายกับกระจก แต่จะมีความเงามากกว่า โดยคุณสมบัติของหลังคาอะคริลิกโปร่งแสงคือการทนทานความร้อนจากแสงแดดได้สูงถึง 50% จึงเหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกอากคาร
อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ราคาของหลังคาอะคริลิกโปร่งแสงสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 1,500 – 3,000 บาท อีกทั้งยังยืดหยุ่นน้อย และมีความยุ่งยากในการติดตั้งอีกด้วย จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการติดตั้ง
หลังคาไฟเบอร์กลาส
หลังคาไฟเบอร์กลาส หรือที่เรียกกันอีกชื่อคือ FRP (Fiberglass Reinforced Plastic) มีลักษณะโปร่งแสง ซึ่งผลิตขึ้นมาจากใยแก้วและโพลีเอสเตอร์เรซิน (Polyester Resin) ชนิดพิเศษ ส่งผลให้หลังคาไฟเบอร์กลาสมีความแข็งแรง แต่ยังยืดหยุ่นได้ดี
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนมาที่สุดของหลังคาไฟเบอร์กลาสมีสีที่ไม่สวยงามมากนัก ซึ่งเป็นสีซีดจาง อีกทั้งยังสามารถเห็นเส้นใยไฟเบอร์ในตัวแผ่นหลังคาได้อย่างชัดเจน ทำให้หลังคาชนิดนี้ไม่สวยงามมากนัก โดยมีราคาอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาทต่อตารางเมตร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของหลังคาด้วย
บทสรุป
สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัว หลังคาโรงรถเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะนอกจากหลังคาโรงรถจะสามารถปกป้องรถยนต์จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวันแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าประโยชน์ของหลังคาโรงรถหลากหลายเป็นอย่างมาก
OZLO ROOF ร้านขายหลังคาจากวัสดุที่หลากหลาย ทั้งหลังคาลอนคู่หรือหลังคา APVCที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม อีงทั้งยังมีบริการติดตั้งจากช่างมากผู้ชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 086-360 9351
Leave a Comment